วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ศิลปะ กับการวาดภาพโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ : คำศัพท์เฉพาะพื้นฐาน (Terminology)

    เมื่อศึกษาหรือทำงานเกี่ยวการวาดภาพ การลงสีภาพ แต่งภาพถ่ายหรืออื่นๆ เรามักจะเห็นเมนูต่าง ๆ มากมายในโปรแกรมที่ใช้ในการปรับค่าต่าง ๆ และมักจะเห็นคำศัพท์เฉพาะทางที่ปกติไม่ได้เรียนในวิชาภาษาอังกฤษทั่วไป ดังนั้นเมื่อมาศึกษาทางด้านนี้แล้วก็ควรรู้คำศัพท์พื้นๆ ไว้บ้าง
คำศัพท์เฉพาะทาง (Terminology)
    RGB  คือรูปแบบการแสดงค่าสีของ สีแดง (Red) เขียว (Green) และ สีน้ำเงิน (Blue) ซึ่งเป็นสีหลักที่ใช้ในการผสมให้ได้สีอื่นๆ ในแบบ Additive (ยิ่งผสมสีหยิ่งได้สีที่สว่างไปจนถึงขาว) ซึ่งสีทั้งสามถูกประยุกต์นำมาใช้สำหรับงานทางด้านการแสดงภาพ ที่ต้องจำเป็นต้องสร้างแสงสีขึ้นมาเองให้เกิดภาพ เช่นจอภาพต่างๆ
    HSV  การแสดงค่าสีแบบสามมิติ ของสีรูปแบบ RGB ใหม่โดยเรียงใหม่ในรูปแบบตรีโกณสามมิติ ทรงกระบอกในการบอกค่าสี (cylindrical-coordinate) เพื่อให้รับรู้ง่ายขึ้น กว่าแบบระนาบ (Cartesian -coordinate) โดยแทนค่าเส้นรอบวงเป็น Hue รัศมีเป็น Saturation และความสูงเป็น Value
   Hue หนึ่งในคุณสมบัติสำคัญของสี ซึ่งกำหนดความหมายทางเทคนิคไว้คือ มุมที่ทำให้เกิดการ ให้เป็นสีต่างๆในวงกลมสี (Color Wheel) ตัวอย่างเช่น Red, Green, Blue และ Yellow ทั้งสี่เป็น unique hueส่วน ในความหมายของจิตกรนั้น ค่า Hue คือ ค่าสีบริสุทธิ์ ที่ไม่ผสมสีขาว หรือสีดำลงไป
    Saturation ปริมาณจำนวนสีที่มีอยู่ในนั้น ตัวอย่างสีแบบ Neon เป็นสีที่มีค่าของสีหลักมากจนอิ่มสี 
    Value, Brightness, Darkness ค่าการปรับความมืดความสว่างของสี ซึ่งในระบบสีแบบ RGB สามารถคำนวณหาค่าได้โดยใช้สูตร Value= (0.299 * Red) + (0.587 * Green) + (0.114 * Blue) ซึ่งค่าที่ได้บางครั้งนั้นถูกนำไปใช้แทนค่าแทนสีในโทนสีเทา (Grey Scale) 
    Exposure ถ้าเปรียบกล้องเหมือนกับตาของคน กล้องทำหน้าที่จับอนุภาคของแสง (photon) ที่สะท้อนมาตกกระทบกับตัวรับภาพ แล้วบันทึก อนุภาคแสงที่ตกกระทบ ต่อหนึ่งจุดภาพ (pixel) และค่า Exposure นั้นเกี่ยวกับกล้องก็คือเป็นปริมาณค่าในการรับแสงนั่นเอง ในภาพนั้นถ้าค่า Exposure มากเกินไปภาพก็จะสว่างจ้ามองไม่เห็นว่าเป็นรูปอะไร หรือภาพดูแบนไม่มีมิติ แต่ถ้าภาพนั้นค่า Exposure น้อยเกินไปภาพก็ดูมืดเกินความเป็นจริง 
    Read, Readable ภาพหรือสิ่งที่มองเห็น มีลักษณะรูปร่างสีสันในแบบที่มันควรเป็น หรือผู้อื่นที่มองเห็นเข้าใจ
    Radiosity, Reflected light and Ambience แสงที่สะท้อนจากพื้นผิว หรือวัตถุต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นอยู่ตลอด เช่นในห้องที่ทาด้วยสีแดง ของตกแต่งต่างที่อยู่ในห้องเมื่อเปิดไฟก็จะออกสี แดงๆ ซึ่งความว่า Radiosity นั้นใช้อ้างถึงสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ในงานการเรนเดอร์ภาพสามมิติ ส่วน Reflected light ในที่นี้ใช้อ้างถึงแสงที่เรารู้แหล่ง กำเนิด และสุดท้าย Ambience แสงสีต่างๆ ที่สะท้อนมาจากหลากหลายที่ หลายพื้นผิวมารวมกัน
    Speculars จุดแสงที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวที่เรียบมันเงา สะท้อนแสง เช่น โลหะ แก้ว หรือความเงาที่เกิดจากแสง เมื่อเจอกับพื้นผิวที่มีรอยเล็กมากๆ และทำให้แสงบางส่วนที่สะท้อนมาที่ตาเรามากเป็นพิเศษ จึงเห็นเป็นจุดแสงหรือดูเงามากว่าส่วนอื่น 
    Flatten ถ้าพูดถึงภาพวาดก็คือภาพที่ไม่มีการใส่แสงเงา พื้นผิว
    Texture, Noise รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่จำเป็นที่จะต้องแสดงให้เป็นรูปเป็นร่าง
    Form, Modeling รูปร่างสามมิติของวัตถุหรือบางสิ่งบางอย่าง
    Plane ในความหลายของศิลปะ คือการจิตนาการพื้นที่ สำหรับการประมาณจุดที่จะวาด อาจใช้การตีเส้นช่วย
    Atmospheric perspective คือมุมมองในสภาพบรรยากาศนั้น เนื่องจากอากาศที่เราเห็นไม่ได้ใสจริงๆ สังเกตได้จากเวลามองไปที่ไกล จะเริ่มเลือนๆ เช่นในช่วงหน้าหนาวที่หมอกลง (ไม่นับสายตาสั้น) ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น สามารถช่วยในการสร้างภาพที่เห็น ให้เกิดความแตกต่างในระยะทาง ดูมีมิติ ทำให้ดูเกินจริง บางทีอาจจะเรียกว่าการทำให้ภาพเลือนเข้ากับพื้นหลังก็ได้ เช่นการวาดภาพบุคคลที่มักมีการเลือนภาพ บริเวณฐานหรือพื้นที่ยืนเพื่อให้เข้ากับพื้นที่เป็นกระดาษสีขาว  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น